หลายคนกลัวการซื้อทีวีจากห้างสรรพสินค้า เพราะคิดว่ามันมีราคาที่แพง และหันไปซื้อทีวีมือ 2 แทน แต่รู้หรือไม่ว่า ราคาทีวีกำลังพุ่งดิ่งลงทุกๆปี หากไม่ใช่ทีวีที่ใช้นวัตกรรมใหม่ หรือรุ่นใหม่ที่ออกมา
ราคาทีวีดำดิ่ง ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Display Daily กล่าวเอาไว้ว่า ราคาทีวี ตั้งแต่ปี 1997 มาจนถึงปี 2017 มีราคาเปลี่ยนแปลงไปมากถึง 100% ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา โดยเหตุผลส่วนใหญ่ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการผลิตทีวี และ อุปกรณ์ อิเล็คทรอนิกส์ ที่มีราคาถูกลงทุกๆปี รวมถึงมีการแข่งขันทางด้านการตลาด และการ แทรกแซงของการใช้ Smartphone แทน ทีวีด้วย (อ้างอิง Quora)
ยกตัวอย่างทีวี 43 นิ้วในปี 2016 ที่ผ่านมา มีราคาอยู่ที่ ราวๆ 20,000 บาท แต่สำหรับทีวีในปัจจุบัน หน้าจอ 55 นิ้ว แบบ OLED มีราคาอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ เท่านั้น

อ้างอิงข้อมูลจาก Promotions.co.th ราคาทีวีปี 2021 ขนาด 55 นิ้ว มีราคาถูกลงแค่เพียง 13,498 บาท และหากเป็นหน้าจอแบบ Qled ขนาดใหญ่ 65 นิ้ว มีราคาแค่เพียง 25,990 บาท เท่านั้น ซึ่งมีราคาที่ไม่แพง และ สามารถเบียดราคาทีวีมือ 2 อย่างสบายๆ เลยทีเดียว
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ เมื่อจะมีการซื้อทีวีแล้ว มักไม่ศึกษาข้อมูลก่อน และ จ้องหาทีวีมือสองมาใช้งาน และหารู้ไม่ว่า ทีวีในห้างสรรพสินค้ามีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก รวมถึง การลดราคาของสินค้าในห้างหลายแห่ง ในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้สินค้าราคาถูกลงไปอีกเท่าตัว
Smartphone ยอดขายตก แต่ ยังแซงหน้าทีวีอยู่
แม้ว่าล่าสุดการ จำหน่ายมือถือเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่เราได้พบเจอกันอยู่ แต่ บางสถานการณ์อย่าง การคลาดแคลนของ Chip ในตลาด ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ยอดขายทีวี และ Smartphone ตกอย่างน่าใจหาย
แต่อย่างไรก็ดี การจำหน่าย Smartphone ในปัจจุบัน ยังคงทำได้ง่ายกว่าการขายทีวี เนื่องจาก Smartphone สามารถ ทำได้ทุกอย่างที่ทีวีทำไม่ได้ โดยสามารถใช้โทรออก รับสาย และเล่น application ได้ด้วย
ด้วยเหตุนี้ ยอดขาย Smartphone จึงเป็นที่จับตามองของหลายๆแบรนด์ และยังคงเน้นที่ยอดขายของ Smartphone โดยมีผลกระทบทำให้ราคาทีวีตกอย่างต่อเนื่อง

ถึงอย่างนั้นก็ดี ยังคงมีหลายฝ่ายที่มองว่า ทีวีบางประเภท อย่าง 8K OLED TV ที่เป็นทีวีที่มีความคมชัดระดับสูงสุด อาจมียอดขายเป็นเท่าตัวในปี 2021 นี้ โดยที่ราคาอาจลง จากเดิมที่ 240,000 บาท ในปี 2017 ไปอยู่ที่ ราวๆ 80,000 บาท ในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึง โดยมีราคาถูกลง หลายเท่าตัว เพื่อดึงดูดลูกค้า
ถ้าจะต้องซื้อทีวีรุ่นใหม่ ควรซื้อช่วงไหนดีที่สุด?
เหตุผลที่ควรต้องซื้อทีวีใหม่ โดยที่ไม่ต้องเอาของเก่าไปซ่อม ก็คือ
- ทีวีเก่าเริ่มเสียแล้ว และ ค่าซ่อมไม่คุ้มค่า
- สามารถซื้อจากสถานที่ที่มีราคาถูกสุดได้
- มีการใช้ Application อย่าง Netflix โดยที่เครื่องเก่าไม่สามารถต่อเน็ต หรือ เล่นหนังได้
- อยากได้หน้าจอใหญ่กว่าเดิม
สำหรับการซื้อทีวีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือเวลา Sale อย่างช่น Mega Campaign ของหลายบริษัทอย่าง Lazada, Shopee, Central ที่มีการลดราคามากกว่าครึ่ง โดยจะเป็นช่วงเวลาที่ควรซื้อมากที่สุด และสำหรับผู้ที่ประหยัด ก็ไม่ควรซื้อทีวีที่ออกมารุ่นใหม่ล่าสุด ให้รอตกรุ่นเสียก่อน
อีกเทคนิคหนึ่งในการซื้อทีวีมือหนึ่ง ไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม ควรที่จะซื้อในช่วงเทศกาลสำคัญเช่น วันเงินเดือนออก (payday sale) หรือช่วงปีใหม่ อย่าง New Year Sale ที่จะมีการลดราคาล้าง stock สูงสุด
หากจำเป็นต้องซื้อ ทีวีมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง?
การซื้อทีวีมือสอง ก็เหมือนกันกับการซื้อของมือสองอื่นๆ นั่นแหละ เพียงแต่ ทีวี มีการลดมูลค่ามากกว่า ค่าซ่อมถูกกว่า แต่การขายต่อเป็นมือที่สามก็อาจทำได้ยากขึ้น และสิ่งนี้ คือจุดที่ควรดูก่อนการซื้อทีวี มือสอง เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อจริงๆ
- ทำไมเจ้าของเก่าถึงขายทีวีเครื่องนั้น?
- ได้เคยเทียบกับราคามือหนึ่งจากในห้างสรรพสินค้าหรือยัง?
- ราคาพอใจหรือไม่?
- ได้ทดลองเปิดภาพให้ดูหรือไม่? ภาพชัดหรือเปล่า? หรือหน้าจอเสียแล้ว?
- ปลั๊กหลังทีวีหลวมหรือไม่?
- เป็น Smart TV หรือเปล่า? สามารถต่อเน็ตได้หรือไม่?
- ลำโพงมีเสียงแตกมั้ย? หากมีการเร่งเสียงให้ดัง
- ขนาดหน้าจอพอดีกับที่บ้านหรือเปล่า?
และด้านบนนี้คือทั้ง 8 ข้อ ซึ่งหากเริ่มต้นตั้งแต่ข้อ 1 ถ้าเป็นในเรื่องของเจ้าของเก่าซื้อมาใช้แค่เพียงไม่กี่วัน และขนาดไม่เข้ากับที่บ้านและต้องการขายต่อ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเป็นราคาที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ขายในราคาเท่ามือหนึ่ง
การทดลองเปิดภาพหน้าจอขึ้นมาก็ควรทำ เนื่องจากหน้าจอทีวี หลายยี่ห้อ อาจมีขึ้นเส้นภาพบนหน้าจอ บ่งบอกว่าเสียแล้ว และอีกประการหนึ่งคือ หากเป็นทีวีที่ใช้มาระยะเวลานานแล้ว ก็จะมีความหลวมของปลั๊กด้านหลัง รวมถึง ลำโพงอาจมีเสียงแตกซึ่งต้องดูกันให้ละเอียดต่อไป